Propertyhub
propertyhub logo
Reviewคู่มือ/ซื้อ/ขาย/เช่าHome & LivingNewsนายหน้ามือโปร
ค้นหาบทความclock

คู่มือการซื้ออสังหาฯ ในไทย สำหรับชาวต่างชาติ

ชาวต่างชาติ
BY
KAiiW.
โพสต์เมื่อ
09 May 2025

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ ผู้เกษียณอายุ ฯลฯ และด้วยความมีเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย ก็ทำให้ชาวต่างชาติหลาย ๆ คน ต้องการที่จะมาปักหมุดซื้อบ้านซื้อคอนโด หรืออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยเพื่ออยู่อาศัยในระยะยาว แต่เนื่องจากประเทศไทยมีกฎหมายที่จำกัดสิทธิ์ของชาวต่างชาติในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ จึงทำให้คุณต้องศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย เพื่อที่การครอบครองอสังหาริมทรัพย์จะได้ไม่มีปัญหาตามมาในภายหลัง ซึ่งในบทความนี้เราก็ได้รวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยที่ชาวต่างชาติควรรู้มาฝาก  

 

1. ชาวต่างชาติสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยได้หรือไม่ ?

คำตอบคือ - ได้ แต่อาจจะมีข้อจำกัดในอสังหาริมทรัพย์แต่ละประเภท

  • คอนโดมิเนียม (Condominium) : เป็นทรัพย์ประเภทเดียวที่ชาวต่างชาติสามารถถือกรรมสิทธิ์โดยตรงได้ โดยต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ชาวต่างชาติจะสามารถซื้อคอนโดแบบถือครองกรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์ (freehold) ได้ไม่เกินร้อยละ 49 ของพื้นที่ยูนิตทั้งหมดของทางโครงการคอนโด ดังนั้นหากต้องการซื้อคอนโดควรตรวจสอบกับผู้ขายให้มั่นใจว่ายังเหลือสัดส่วนสำหรับให้ชาวต่างชาติถือกรรมสิทธิ์หรือไม่
  • บ้านและที่ดิน : ตามกฎหมายของไทยไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติถือกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือบ้านโดยตรง อย่างไรก็ตาม มี 2 วิธีที่นิยมใช้ในการเข้าถึงสิทธิในการอยู่อาศัยหรือใช้ประโยชน์จากบ้านและที่ดินในไทยได้ ดังนี้
    1. การทำสัญญาเช่าแบบระยะยาว ซึ่งทำได้สูงสุด 30 ปี พร้อมสิทธิ์ในการต่อสัญญา ได้สองครั้ง ครั้งละ 30 ปี รวมเป็นระยะเวลาทั้งหมด 90 ปี (Leasehold)
    2. การจัดตั้งบริษัทที่มีผู้ถือหุ้นชาวไทยอย่างน้อย 51% เพื่อซื้อที่ดินหรือบ้านในนามของบริษัท (ทั้งนี้หากกรมที่ดินตรวจพบว่าผู้ถือหุ้นคนไทยเป็นเพียง “ตัวแทน” หรือนอมินี ที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในกิจการจริง จะมีการดำเนินคดีและริบทรัพย์ เพราะถือว่าทำผิดกฎหมายในประเทศไทย)

 

ทั้งนี้หากชาวต่างชาติจดทะเบียนสมรสกับคู่สมรสชาวไทยจะสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์อื่นนอกเหนือจากคอนโดได้ ด้วยการเป็นผู้กู้ร่วมหรือเป็นผู้ค้ำประกันให้กับคู่สมรสชาวไทย

 

2. เงื่อนไขของชาวต่างชาติที่สามารถถือครองที่ดินได้

แม้กฎหมายจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติถือครองที่ดินโดยตรง แต่มีข้อยกเว้นที่รัฐอนุญาตให้ชาวต่างชาติถือครองที่ดินได้ในบางกรณี โดยมีเงื่อนไข ดังนี้

  • นำเงินมาลงทุนในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาท โดยชาวต่างชาติที่ต้องการถือครองที่ดินในไทยจะต้องมีการลงทุนในธุรกิจหรือโครงการที่ได้รับอนุมัติจากรัฐด้วยมูลค่าการลงทุนขั้นต่ำ 40 ล้านบาท
  • ดำรงการลงทุนอยู่ไม่น้อยกว่า 5 ปี เพื่อแสดงถึงความตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย
  • ที่ดินนั้นต้องอยู่ในเขตที่กำหนด โดยรัฐบาลจะกำหนดเขตพื้นที่เฉพาะสำหรับการถือครองที่ดินของชาวต่างชาติ เช่น พื้นที่ที่เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษหรือเขตที่ส่งเสริมการลงทุน
  • ถือครองที่ดินได้ไม่เกิน 1 ไร่ โดยที่ดินนั้นต้องใช้เพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น

 

3. Freehold และ Leasehold แตกต่างกันอย่างไร ?

การถือครองอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยสำหรับชาวต่างชาติแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลัก ๆ คือ Freehold และ Leasehold ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยมีรายละเอียดังนี้

1. Freehold (กรรมสิทธิ์สมบูรณ์)

Freehold คือ การถือกรรมสิทธิ์อย่างสมบูรณ์ในอสังหาริมทรัพย์ ชาวต่างชาติที่ซื้ออสังหาฯ แบบ Freehold จะถือสิทธิเป็นเจ้าของตามกฎหมายไทยอย่างถาวร โดยไม่มีการกำหนดระยะเวลา ถือเป็นสิทธิที่มั่นคงที่สุดที่สามารถมีได้

  • ผู้ถือครองสามารถขาย โอน มรดก หรือให้เช่าได้อย่างเสรี
  • เหมาะสำหรับผู้ที่วางแผนอยู่อาศัยหรือถือครองในระยะยาว
  • มีสิทธิเต็มในการตกแต่ง ดัดแปลง หรือปรับปรุงทรัพย์สินภายในกฎหมาย
  • มีความมั่นคงทางกฎหมายสูง
  • ถือเป็นกรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์ภายใต้กฎหมายไทย
  • อสังหาริมทรัพย์ที่สามารถซื้อแบบ Freehold ได้ คือ "คอนโดมิเนียม" เท่านั้น

เงื่อนไขสำคัญ

  • ต้องโอนเงินเข้าประเทศไทยเป็นสกุลเงินต่างประเทศผ่านบัญชีธนาคารพาณิชย์ไทย และแปลงเป็นเงินบาทในประเทศไทย
  • ธนาคารจะออกเอกสาร Foreign Exchange Transaction Form (FETF) ใช้ในการยืนยันแหล่งที่มาของเงิน
  • ผู้ถือครองสามารถถือครองได้อย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจะขายหรือโอนสิทธิให้ผู้อื่น

2. Leasehold (สิทธิการเช่าระยะยาว)

Leasehold คือ การเช่าอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาว โดยไม่ใช่การถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน ชาวต่างชาติสามารถทำสัญญาเช่ากับเจ้าของทรัพย์สิน (มักเป็นคนไทยหรือบริษัทไทย) ได้สูงสุด 30 ปี ตามกฎหมายไทย โดยสามารถทำข้อตกลงต่อสัญญาได้เพิ่มเติมอีก 30 + 30 ปี (รวม 90 ปี)

  • สิทธิการเช่าจะระบุชัดเจนในเอกสารสัญญาและควรจดทะเบียนกับสำนักงานที่ดิน
  • ผู้เช่ามีสิทธิใช้ทรัพย์สินตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญา
  • ไม่สามารถขายหรือโอนสิทธิได้โดยง่าย เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่า
  • ใช้ได้กับอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท
  • เป็นทางเลือกเดียวในการได้ครอบครองบ้านหรือที่ดินโดยไม่ถือกรรมสิทธิ์โดยตรง
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยระยะยาวแต่ไม่มีสิทธิซื้อแบบ Freehold
  • ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นต่ำกว่าการซื้อแบบ Freehold

ข้อจำกัดและข้อควรระวัง

  • ไม่มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน และไม่สามารถจำนองหรือต่อรองราคาเหมือนเจ้าของได้
  • ค่าเช่าอาจเพิ่มขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงของตลาด
  • การต่อสัญญาขึ้นอยู่กับความสมัครใจของเจ้าของที่ดิน
  • การขายต่อทำได้ยาก ต้องได้รับอนุมัติจากเจ้าของทรัพย์ก่อนเสมอ
  • ในกรณีที่ผู้ให้เช่าเสียชีวิต หรือมีคดีความ ทรัพย์สินอาจมีความเสี่ยงต่อสิทธิของผู้เช่า
  • ตรวจสอบให้แน่ชัดว่าสัญญาเช่าถูกต้อง ครอบคลุมสิทธิที่ตกลงไว้
  • สัญญาเช่าเรื่องการต่ออายุต้องเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น เพราะจะสามารถนำไปใช้ทางกฎหมายได้ หากมีข้อพิพาทเกิดขึ้น

 

4. หลักการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยสำหรับชาวต่างชาติ

การเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยสำหรับชาวต่างชาติ จำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงตอนเข้าอยู่อาศัยจริงในระยะยาว เพื่อให้การเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ของคุณตอบโจทย์ในการใช้ชีวิตได้ครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นความชอบส่วนบุคคล การเดินทาง การออกไปใช้ชีวิตหรือแม้กระทั่งการลงทุน ซึ่งเราก็ได้รวบรวมหลักการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย มาฝากดังนี้  

รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ?

  • วัตถุประสงค์คืออะไร ? พักอาศัย ปล่อยเช่าหรือลงทุนระยะยาว
  • ต้องการอยู่ในเมืองใหญ่ ใกล้ทะเลหรือแบบเงียบสงบตามต่างจังหวัด
  • กำหนดขนาดพื้นที่ จำนวนห้องและสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น

เลือกทำเลที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต

  • ถ้าคุณต้องการความสะดวกสบาย : ให้เลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ใกล้รถไฟฟ้า BTS, MRT, ห้างสรรพสินค้า หรือพื้นที่ต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานครฯ แต่ถ้าเลือกซื้ออสังหาฯ ตามต่างจังหวัดให้ซื้อในตัวเมืองเป็นหลัก
  • ถ้าชอบธรรมชาติ : ให้เลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ตามต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต ฯลฯ ซึ่งอาจจะตอบโจทย์ได้มากกว่าอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ

*** อย่าดูแค่ปัจจุบันให้มองอนาคตของพื้นที่นั้นด้วย (การเติบโต, โครงการพัฒนา, มูลค่าที่เพิ่มขึ้น)

กำหนดงบประมาณให้ชัดเจน

  • กำหนดงบรวมทั้งหมด รวมค่าธรรมเนียม ภาษี ค่าบำรุงรักษา ฯลฯ
  • เตรียมเผื่อค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ค่าตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ หรือค่าซ่อมแซม

เลือกชมอสังหาฯ ที่ชอบตามเว็บไซต์และนัดเพื่อเข้าชมสถานที่จริง

ในปัจจุบันนี้คุณไม่จำเป็นที่จะต้องเดินทางเพื่อหาซื้ออสังหาริมทรัพย์เหมือนในอดีตให้เหนื่อยแรง เพราะคุณสามารถเลือกอสังหาริมทรัพย์ได้ทางเว็บไซต์ Propertyhub ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมประกาศขาย/เช่า อสังหาริมทรัพย์ทุกรูปแบบในประเทศไทย ที่ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก และที่สำคัญมีอสังหาริมทรัพย์ให้คุณเลือกมากมายไม่ว่าจะเป็น คอนโด บ้าน ที่ดิน ฯลฯ และเมื่อคุณเจอกับอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกใจแล้ว ก็ให้คุณทำการนัดกับเจ้าของอสังหาฯ หรือ Agent เพื่อเข้าชมสถานที่จริงก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ

ตรวจสอบคุณภาพโครงการและผู้พัฒนา

  • เลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์จากผู้ขายที่น่าเชื่อถือ เช่น ผู้พัฒนาโครงการรายใหญ่ ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ที่มีใบอนุญาต
  • โครงการสร้างเสร็จจริงไหม ? เลือกคุณภาพวัสดุดีหรือไม่ ?
  • หากเป็นโครงการมือสองให้ดูสภาพโดยรวมว่าเป็นอย่างไร ? ต้องซ่อมแซมหรือมีการชำรุดตรงส่วนไหน ? พื้นที่ส่วนกลางมีอะไรมอบให้บ้าง ?

ทดลองใช้ชีวิตในพื้นที่นั้นจริง ๆ

  • ให้ลองพักค้างแรมในบริเวณใกล้เคียงอสังหาริมทรัพย์ที่คุณต้องการซื้อ
  • ดูว่าการเดินทางสะดวกแค่ไหน สภาพแวดล้อมปลอดภัยหรือไม่ ?
  • สังเกตตอนกลางคืนและวันหยุด ว่ามีเสียงรบกวน หรือมีการจราจรที่แออัดหรือเปล่า ?
  • ร้านอาหาร หรือสถานที่สำคัญต่าง ๆ อยู่ไกลไหม ?

ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ ที่เราได้กล่าวไปข้างต้น จะช่วยให้คุณได้เจอกับอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกใจและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตได้อย่างแน่นอน

 

5. ขั้นตอนการซื้อคอนโดในประเทศไทยสำหรับชาวต่างชาติ

1. วางเงินจองห้อง

หลังจากเลือกคอนโดที่ถูกใจได้แล้ว ขั้นตอนแรกคือการวางเงินจอง โดยปกติชาวต่างชาติจะวางเงินจอง ประมาณ 50,000 – 200,000 บาท หรือขึ้นอยู่กับราคาของคอนโดเป็นหลัก ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการยืนยันการจองคอนโด

2. ทำสัญญาจะซื้อจะขาย

จากนั้นจะมีการนัดทำ “สัญญาจะซื้อจะขาย” ซึ่งเอกสารนี้จะระบุรายละเอียดของอสังหาริมทรัพย์ที่คุณเลือกไว้ พร้อมยอดเงินทั้งหมดที่ต้องชำระ หากมีงวดการผ่อนดาวน์ ก็จะมีการกำหนดไว้ในสัญญานี้ด้วย

3. เตรียมการโอนกรรมสิทธิ์

เมื่อถึงขั้นตอนโอนกรรมสิทธิ์ คุณควรจะต้องเตรียมเงินให้พร้อมหรือหากต้องการกู้เงินก็สามารถวางแผนกับสถาบันการเงินได้ล่วงหน้า และในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการเองได้ ชาวต่างชาติสามารถมอบอำนาจให้ทาง Agent หรือ Developer เป็นผู้ดำเนินการแทน ณ สำนักงานที่ดิน (ควรมาจัดเตรียมเอกสารต่าง ๆ ในประเทศไทยด้วยตนเองให้เรียบร้อยเสียก่อน)

4. สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาประเทศไทยได้

หากชาวต่างชาติไม่สะดวกเดินทางมายังประเทศไทย ก็สามารถนำเอกสารที่จำเป็นไปแสตมป์ตรา Notary Public ที่สถานทูตไทยในประเทศนั้น ๆ เพื่อยืนยันความถูกต้อง จากนั้นส่งเอกสารกลับมาให้ทาง Agent หรือ Developer ในไทย ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ในลำดับต่อไป

5. รับเอกสารกรรมสิทธิ์

ขั้นตอนสุดท้าย เมื่อการโอนเสร็จสิ้นแล้ว ผู้ซื้อจะได้รับ “หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุดคอนโด” และ “สัญญาซื้อขาย” จากสำนักงานที่ดิน ซึ่งถือเป็นหลักฐานยืนยันว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์คอนโดอย่างสมบูรณ์

 

6. การชำระเงินของชาวต่างชาติในการซื้อคอนโดในไทย

การชำระเงินของชาวต่างชาติในการซื้อคอนโดในประเทศไทยจะต้องเป็นเงินที่โอนมาจากต่างประเทศทั้งหมด และต้องเป็น สกุลเงินต่างประเทศเท่านั้น โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. เงินจอง

สามารถชำระผ่าน บัตรเครดิต หรือโอนเงินจากต่างประเทศได้

2. เงินผ่อนดาวน์

โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 20 – 30% ของราคารวม ผู้ซื้อจะต้องโอนเงินในแต่ละงวดจากต่างประเทศเป็นสกุลเงินต่างประเทศทุกครั้ง

3. การโอนกรรมสิทธิ์

แม้ว่าชาวต่างชาติจะมีเงินอยู่ในบัญชีธนาคารไทย ก็ไม่สามารถใช้เงินก้อนนั้นเพื่อชำระค่าโอนได้ ซึ่งเงินสำหรับการโอนกรรมสิทธิ์จะต้องมาจาก การโอนระหว่างประเทศเท่านั้น แต่หากผู้ซื้อมีเงินก้อนพร้อมอยู่ในต่างประเทศก็สามารถโอนได้ทันที หรือหากต้องการกู้เงิน สามารถยื่นขอกู้จากธนาคารหรือสถาบันการเงินที่รองรับได้

 

7. ภาษีและค่าธรรมเนียมในการซื้อคอนโดในประเทศไทย

ในการซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศไทย นอกจากราคาซื้อขายแล้ว ผู้ซื้อและผู้ขายยังต้องรับผิดชอบค่าธรรมเนียมและภาษีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งหลัก ๆ ได้แก่ ค่าที่ผู้ซื้อรับผิดชอบและค่าที่ผู้ขายต้องจัดการ โดยมีรายละเอียดดังนี้

ค่าใช้จ่ายฝั่งผู้ซื้อ

1. ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ (Transfer Fee)

เป็นค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บเมื่อมีการโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าผู้ซื้อจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติก็ต้องชำระ

คิดเป็น 2% ของราคาประเมินทรัพย์สินหรือคำนวณจากมูลค่าที่ระบุในสัญญาซื้อขาย (แล้วแต่กรณี) โดยทั่วไปมักแบ่งจ่ายระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย แต่ในหลายกรณีผู้ซื้อจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบส่วนใหญ่

2. อากรแสตมป์ (Stamp Duty Tax)

จะต้องชำระอากรแสตมป์ 0.5% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย แล้วแต่ว่ายอดไหนสูงกว่ากัน เฉพาะในกรณีที่ไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ แต่หากเรียกเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะแล้ว (SBT หรือ Specific business tax) มักจะไม่ต้องเสียอากรแสตมป์

ค่าใช้จ่ายฝั่งผู้ขาย

1. ภาษีธุรกิจเฉพาะ (Specific Business Tax)

เรียกเก็บเมื่อผู้ขายขายทรัพย์สินภายในระยะเวลา ไม่เกิน 5 ปี นับจากวันที่ถือครอง คิดเป็น 3.3% ของราคาประเมิน หรือราคาขายที่ลงทะเบียน (แล้วแต่ยอดที่สูงกว่า)

2. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax)

ภาษีนี้จะคำนวณจากรายได้ของผู้ขาย หากผู้ขายเป็นบุคคลธรรมดาจะคำนวณตามขั้นบันไดภาษีเงินได้โดยมีการหักค่าเสื่อมตามปีที่ถือครอง และใช้วิธีคำนวณขั้นบันได หากผู้ขายเป็นนิติบุคคล จะคิดเป็น 1% ของราคาขาย หรือราคาประเมิน (แล้วแต่ยอดสูงกว่า)

 

ก่อนจะซื้อขายคอนโดในไทย อย่าลืมสอบถามให้ชัดเจนว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายแต่ละส่วน เพราะในบางกรณีอาจมีการตกลงให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกค่าธรรมเนียมทั้งหมด เพื่อให้ไม่มีความเข้าใจผิดในภายหลัง

 

การซื้อคอนโดในประเทศไทยสำหรับชาวต่างชาติไม่ใช่เรื่องยาก หากเข้าใจกฎเกณฑ์และขั้นตอนอย่างถูกต้อง ตั้งแต่การวางเงินจอง การทำสัญญา การโอนกรรมสิทธิ์ ไปจนถึงเรื่องภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสิ่งสำคัญคือการเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน โอนเงินผ่านช่องทางที่ถูกต้องตามกฎหมายกำหนดและมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ ไม่ว่าจะเป็นทนายความ นายหน้า หรือผู้พัฒนาโครงการ ทั้งนี้คุณสามารถค้นหาคอนโด บ้าน ที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ทุกรูปแบบในประเทศไทย เพื่อซื้อ/เช่า ได้ที่ Propertyhub : Best Thailand property marketplace for condos, homes, and land. Create your free listing now!

แชร์เนื้อหา
KAiiW.
ช่องทางในการติดตาม
LINE@ Add Friend
บทความที่เกี่ยวข้อง

How Foreign Buyers Can Own Property in Thailand

Thailand has long been a top destination for foreigners, whether for tourism, business, retirement, or long-term living. With its unique charm, many foreigners are interested in buying houses, condominiums, or other types of real estate in Thailand. However, Thailand's laws limit the rights of foreigners in property ownership, so it's essential to understand the legal framework before proceeding. This guide covers all the key details foreigners need to know when buying property in Thailand.

โพสต์เมื่อ10 May 2025

EIA คืออะไร ? จะซื้อบ้านซื้อคอนโด ควรต้องรู้!

สำหรับใครที่กำลังจะมีแพลนซื้อคอนโด โดยเฉพาะคอนโดที่ยังไม่ได้สร้างหรือกำลังก่อสร้าง ก็มีอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่คุณจำเป็นจะต้องทำความรู้จักเลยก็คือ "EIA" ซึ่งเราก็มักจะเห็นคำ ๆ นี้ อยู่ตามป้ายโฆษณาหรือหน้าเว็บไซต์ของโครงการคอนโดอยู่บ่อย ๆ และก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลาย ๆ คน ยังไม่รู้จักกับ EIA ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว EIA ค่อนข้างที่จะมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการเลือกซื้อคอนโดที่ยังสร้างไม่เสร็จ ฉะนั้นในวันนี้ทีมงาน Propertyhub จึงจะขออาสาพาคุณไปทำความรู้จักกับ EIA ว่ามันคืออะไร ? มีความหมายอย่างไร ? และทำไมเราถึงควรรู้จักกับเจ้าคำ ๆ นี้ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อคอนโด

โพสต์เมื่อ09 May 2025

คู่มือการซื้ออสังหาฯ ในไทย สำหรับชาวต่างชาติ

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ ผู้เกษียณอายุ ฯลฯ และด้วยความมีเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย ก็ทำให้ชาวต่างชาติหลาย ๆ คน ต้องการที่จะมาปักหมุดซื้อบ้านซื้อคอนโด หรืออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยเพื่ออยู่อาศัยในระยะยาว แต่เนื่องจากประเทศไทยมีกฎหมายที่จำกัดสิทธิ์ของชาวต่างชาติในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ จึงทำให้คุณต้องศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย เพื่อที่การครอบครองอสังหาริมทรัพย์จะได้ไม่มีปัญหาตามมาในภายหลัง ซึ่งในบทความนี้เราก็ได้รวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยที่ชาวต่างชาติควรรู้มาฝาก

โพสต์เมื่อ09 May 2025

เลือกเอเจนต์(นายหน้า) อสังหาฯ ยังไง ? สำหรับขาย/ปล่อยเช่าบ้านและคอนโด

หากคุณกำลังต้องการที่จะขาย/ปล่อยเช่าบ้านหรือคอนโด แต่ไม่สะดวกที่จะต้องมานั่งหาลูกค้าเอง การเรียกใช้เอเจนต์อสังหาฯ ก็คงจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยทำให้บ้านหรือคอนโดของคุณสามารถขาย/ปล่อยเช่าได้ไวมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้คุณจำเป็นที่จะต้องเลือกเอเจนต์อสังหาฯ ที่มีความเป็นมืออาชีพ ไว้ใจได้ เพื่อที่คุณจะได้รับบริการที่ดีเยี่ยมและปิดการขาย/ปล่อยเช่าได้ในเวลาที่ไม่นาน เพราะฉะนั้นในบทความนี้เราจึงได้รวบรวมแนวทางการเลือกเอเจนต์อสังหาฯ มาฝาก ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้น เราไปติดตามข้อมูลที่น่าสนใจนี้พร้อมๆ กันเลย

โพสต์เมื่อ28 February 2025

บทความแนะนำ

ขั้นตอนเปลี่ยนชื่อผู้ใช้ไฟฟ้า ต้องทำอย่างไรกันนะ ?

ขั้นตอนเปลี่ยนชื่อผู้ใช้ไฟฟ้า ต้องทำอย่างไรกันนะ ?

สำหรับใครที่กำลังจะไปทำเรื่อง “ขอเปลี่ยนชื่อผู้ใช้ไฟฟ้า” บทความนี้ก็คงจะเป็นประโยชน์กับคุณอย่างแน่นอน เพราะว่าเราได้รวบรวมขั้นตอนการยื่นเรื่องขอเปลี่ยนชื่อผู้ใช้ไฟฟ้า พร้อมกับลิสต์รายชื่อเอกสารที่คุณจะต้องจัดเตรียมมาฝาก

โพสต์เมื่อ25 February 2023
วิธีตรวจสอบ “ราคาประเมินคอนโดออนไลน์” แบบไม่ต้องไปถึงกรมที่ดิน

วิธีตรวจสอบ “ราคาประเมินคอนโดออนไลน์” แบบไม่ต้องไปถึงกรมที่ดิน

ปัจจุบันนี้คุณสามารถเช็คราคาประเมินคอนโดทางออนไลน์ได้แล้ว และที่สำคัญเลยก็คือใช้งานง่าย เช็คราคาประเมินได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาและค่าเดินทางไปยังกรมที่ดิน เพราะฉะนั้นทางทีมงาน Propertyhub จึงจะขอนำวิธีตรวจสอบ “ราคาประเมินคอนโดออนไลน์” มาฝาก

โพสต์เมื่อ16 January 2023
รวมขั้นตอนการรับโอนคอนโด พร้อมเอกสารการโอนที่ต้องจัดเตรียม

รวมขั้นตอนการรับโอนคอนโด พร้อมเอกสารการโอนที่ต้องจัดเตรียม

ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์อย่างคอนโดนั้น นอกเหนือจากราคาขายคอนโดแล้ว สิ่งที่ต้องทราบนอกเหนือจากนี้ก็คือเรื่องของ ขั้นตอนต่างๆ ที่ผู้ซื้อทุกรายจะต้องทำความเข้าใจ เพราะไม่ว่าจะเป็นการ ซื้อคอนโด มือหนึ่งจากผู้พัฒนาโครงการ หรือการซื้อคอนโดมือสองต่อจากผู้เป็นเจ้าของก็ตาม ขั้นตอนของการ โอนคอนโด คือเรื่องที่จะสร้างความปวดหัวไม่น้อยสำหรับใครที่ไม่เคยทำความเข้าใจมาก่อน

โพสต์เมื่อ18 August 2021

คอนโดให้เช่ายอดนิยม

propertyhub logo

เมนูหลัก

ติดต่อเรา

บริษัท ซิมเปิ้ล อินเทอร์เน็ต
จํากัด เลขที่ 242 ห้องเลขที่ A210 อาคาร A
ศูนย์การค้าเพลินนารี่มอลล์
ถนนวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน
กรุงเทพมหานคร 10230
Line QrCode
Line ID : @propertyhub
โทร. 02-026-3049

support@propertyhub.in.th

Line QrCode
Line ID : @propertyhub
โทร. 02-026-3049

support@propertyhub.in.th

twitter icon
youtube icon
instagram icon
Copyright © 2019-2020 Zimple Internet Co., Ltd. , All rights reserved.
facebook icon
twitter icon
youtube icon
instagram icon